วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ตลาดปรับตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5 week เป็นสัปดาห์แรก


ตลาดปรับตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5 week เป็นสัปดาห์แรก
เป็นสัญญาณ้บอกว่าตลาดอาจปรับตัวระยะกลางได้ และ parabolic
บอกว่าเป็นสัญญาณปรับตัว เพราะฉะนั้น ต้องระวัง

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

set มีแน้วโน้ม side way ลง


เป็นเพียงการใช้การวิเ้คราะห์ทางเทคนิค เพื่อกรณีศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มุ่งหวังเป็นการชี้นำ

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

หุ้นเด่นวันที่ 28-9-53





เป็นการสร้างกรณีศึกษา ไม่ใช่การชี้นำ

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

หุ้นเด่นวันที่ 23-9-53











เป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคเท่านั้น ไม่ได้เป็นการชี้นำ

วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

การวิเคราะห์เป็นเพียงกรณีศึกษา ไม่ได้หวังผลในการชี้นำ








วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

หุ้นวันที่ 21-9-53








เป็นเพียงการวิเคราะห์ทางเทคนิค เท่านั้น ไม่ใช่เป็นการชี้นำ

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

วันที่ 20-9-53








เป็นเพียงการนำการวิเคราะห์ทางเทคนิค มาคาดการณ์ ไม่ใช่การชี้นำ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

ตลาดหุ้น 17-9-53

หุ้น tisco


หุ้น spali


หุ้น HEMARAJ


หุ้น AMATA

วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แนวโน้มตลาดหุ้น

แนวโน้มตลาดวันที่ 3 มิถุนายน 2553 เป็นต้นไป คาดว่าตลาดยังปรับตัวในช่วงแคบระหว่าง 760 แนวรับที่ 743 แต่ยังให้น้ำหนักว่าน่าจะหลุดลงในไม่ช้า และมีแนวรับที่ 680 จุด
ถ้าตลาดจะกลับเป็นดีแล้วต้องยืนเหนือค่าเฉลี่ย 5 สัปดาห์และยืนเหนือสักหนึ่ง ถึงสองสัปดาห์ แนะนำ ให้
wait and see ไปก่อน

วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ วันที่ 2ุุ6 พค 53 แนวโน้มระยะกลางหลุดแล้วที่ระดับ 740 จุด คาดว่า
จะทดสอบเส้น nect line ที่ระดับ 700 จุด เร็ว ๆ นี้ และคิดว่า จะเด้งกลับช่วงสั้น แต่หลังจากนั้นก็จะ
ลงต่ออย่างรวดเร็ว โดยมีแนวรับระยะกลางที่ดีที่ 560-580 จุด
กลยุทธ ถ้าตลาดเด้งขึ้นก่อนให้ขายเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ตลาดเด้งไม่น่าเกิน 740 จุด
ถ้าตลาดใกล้จุด 700 จุด อาจเล่นสั้นได้แต่คงไม่เกิน 20-30 จุด
ถ้าตลาดหลุด ึ700 จุด ให้อยุดเล่น และไปรอที่ต่ำกว่า 600 จุด

Thai Stock Exchange Today 26/05/2010 off medium-term outlook and the expected level of 740.
Nect line to test the line at 700 points soon and think that the short rebound. But then it will
To the rapidly The line for medium-term good of 560-580 points.
If the marketing strategy before the bounce to sell more so on the market bounce should not exceed 740 points.
If the market near the 700 points may not play short, but still no more than 20-30 points.
If the market Ö off 700 points and played it all stop and to wait at least 600 points.
nuttavut naranitchada

วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ดีเดย์ ถ้าตกแรงก็จะเด้งกลับเร็ว 19-5-53

ดาวโจน์ -114 จุด ต่างชาติขายต่อ 2600 ล้านบาท

เทคนิคเคิล
setระยะกลาง ตลาดถ้าปรับตัวลง จะมีแนวรับที่ 740 (bollinger avg ) ของ week และแนวรับ ( trend line ) ที่ 730 จุด ถ้าหากหลุดระดับ 740 จุดถือเป็นมีนัยสำคัญ ไม่น่ารับที่ 730 จุด แต่จุดรับที่แข็งแรงคือ 680 จุด ( nect line ) แต่หากมีการเด้งขึ้นไปจะไปทดสอบแนวต้านที่ 780 จุด ซึ่งเป็นแนวต้าน ( down trend line )

set ระยะสั้น ตลาดปรับตัวในช่วงเช้า และเด้งขึ้นหากการเมืองเรียบร้อยไม่สูญเสีย แต่ถ้าหากมีความเสี่ยงเรื่องการเมืองจนทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก อาจทำให้เกิดบานปลายได้

แนะนำให้ ไม่จำเป็นก็ดูไปก่อน Wait and see

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

18 พค 2553

หุ้นบวก 49 หุ้นลบ 327 ไม่เปลี่ยนแปลง 66
most active
ราคาปิด อัตราเงินปันผล อัตรา P/E

CPF 16.80 0.7% 10.27
PTT 248.00 3% 21.56
SCB 81.00 3.1% 11.8
BANPU 608.00 2.8% 12.16
STPI 20.40 6.6% 9.23
KBANK 87.00 3.0% 11.79
PTTEP 144.00 3.1% 12.54
IRPC 4.54 0 12.51
PTTCH 99.75 3.8% 13.86
PTTAR 28.00 4.9% 8.21

ดาวโจนส์ ปรับเพิ่มขึ้น 5.67 จุด
ต่างชาติขาย 4.2 พันล้านบาท
คาด การเมืองยืดเยื้อ GDP เติบโต 2.00 - 2.50 จุด
แสตนดาร์ดแอนด์พัว จัดเกรดอยู่ BBB+
คาดว่าดัชนี
ระยะกลาง มีแนวต้านที่ 780 จุด แนวรับ 740, 680
ระยะสั้น มีแนวต้านที่ 762 จุด แนวรับ 740, 720

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ตลาดหุ้นวันที่ 17-5-53

ตลาดหุ้นวันนี้ 17 พค 2553

ตลาดหุ้นเบรค รูปธง ที่ระดับ 740 จุด ขึ้นไป ถึง 820 จุด ปัจจุบัน ปรับตัวมาที่ 768 จุด โดยมีแนวรับที่ 740 จุด ( ณ จุดที่เบรค ) กลับมาเป็นแนวรรับ แนวต้านอยู่ที่ ระดับ 820 จุด แต่มีแนวต้านที่แข็งแรงคือ 780-783 ใน สัปดาห์นี้ คาดว่าไม่สามารถผ่านได้ และปรับตัวทดสอบที่ 740 จุด และคาดว่ายังคงไม่สามารถรับได้

ข้อมูลในสัปดาห์นี้
1. ความเสี่ยงทางด้านการเมือง ยังเป็นปัจจัย หลัก ซึ่งยังคงต้องใช้เวลาในการบรรเทา ลดลงของความขัดแย้ง
2. ความเสี่ยงทางด้านการลดการลงทุนจากต่างประเทศ ดังดูได้จากการที่ กองทุนต่างชาติขายหุ้นออกเป็นระยะ และบางกองทุนมีเงื่อนไขไม่ลงทุนในประเทศที่ความเสี่ยงทางการเมือง
3. เรื่องปัจจัยพื้นฐานของหุ้น หุ้นขนาดใหญ่มีการจ่ายปันผล ส่วนใหญ่ปันผลที่ระดับ 3% ( ptt , pttep ,kank ) ซึ่งอาจจะดีกว่าการฝากเงินประจำนิดหน่อยแต่เทียบกับการซื้อพันธบัตร ยังต่ำกว่า ซึ่งแสดงให้เห็นการลงทุนในหุ้น ซึ่งมีความเสียงสูงกว่ากับไม่ได้รับส่วนชดเชยความเสี่ยงที่เพียงพอ